ส้มตำ อาหารท้องถิ่นของไทยที่มีดีกรีเป็นถึงซอฟต์เพาเวอร์ที่ส่งอิทธิพลต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติให้อยากรู้จักประเทศไทยมากขึ้น จนเดี๋ยวนี้มีนักท่องเที่ยวหลายรายขนานนามประเทศไทยว่า “ประเทศแห่งยำ” คือ มีเมนูรสแซ่บหลากหลายเมนูที่รับประทานที่ไหนก็ไม่ได้อรรถรส ถ้าไม่ได้มาลิ้มลองที่ประเทศไทย ดังนั้นเพื่อยกระดับเมนูพื้นบ้านให้มีความหลากหลายมากขึ้น คุณทราบหรือไม่ว่า ส้มตำไม่จำเป็นต้องใส่มะละกอเสมอไป คุณสามารถเปลี่ยนวัตถุดิบและยังคงความแซ่บได้เหมือนเดิม มาเพิ่มเมนูของคุณให้แตกต่างด้วยวัตถุดิบใหม่ ๆ ไปพร้อมกัน

5 สูตรเมนูส้มตำแซ่บได้ไม่ง้อมะละกอ


ส้มตำมีวัตถุดิบหลักคือมะละกอ นำมาสับให้เป็นเส้นและนำไปตำคลุกกับเครื่อง อย่างพริกและกระเทียม เพิ่มรสชาติด้วยผักอย่างถั่วฝักยาวและมะเขือเทศ ปรุงรสให้แซ่บด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ซึ่งถ้าหากเราไปเที่ยวแถบภาคอีสานของประเทศไทย เราจะได้พบตำถั่ว ซึ่งมีวิธีการทำเหมือนกันทุกอย่าง แตกต่างกันที่วัตถุดิบที่เปลี่ยนจากมะละกอเป็นถั่วฝักยาว ให้รสชาติแซ่บจัดจ้าน นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบชนิดอื่น ที่สามารถนำมาใช้แทนมะละกอได้อีก เช่น

  1. ตำแตง
    เป็นการนำแตงร้านมาใช้ทดแทนมะละกอ โดยแตงร้านจะมีลักษณะผลที่ยาวและใหญ่กว่าแตงกวาทั่วไปหลายเท่า เมื่อนำมาสับจะได้เนื้อค่อนข้างเยอะ มีเทคนิคอยู่นิดเดียวคือ เวลาที่จะใส่แตงร้านเข้าไปในครก จะต้องใส่เป็นอันดับท้ายสุด และตำด้วยความเบามือ เพื่อไม่ให้น้ำของแตงร้านออกมามากจนทำให้รสชาติที่ปรุงเอาไว้เสีย คุณสามารถใส่น้ำปลาร้าเพื่อความนัวและความหอมได้ เมื่อรับประทานจะได้ความกรุบกรอบและความเย็นฉ่ำของเนื้อแตง
  2. ตำผลไม้
    อีกหนึ่งความหลากหลายทางรสชาติของเมนูส้มตำ ที่สามารถเพิ่มหรือลดระดับความแซ่บได้ตามชอบใจ ตำผลไม้เป็นการน้ำผลไม้เนื้อแข็งอย่างแอปเปิล มันแกว และแก้วมังกร มาหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าพอดีคำ แต่สูตรนี้เราจะไม่นำผลไม้ทั้งหมดไปตำในครก เพราะจะทำให้เนื้อผลไม้เละ แต่จะใช้วิธีนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องที่ตำและปรุงรสไว้อย่างดีแล้ว คุณสามารถเพิ่มองุ่น หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพื่อเพิ่มรสชาติและความกรุบกรอบได้ตามใจชอบ
  3. ตำผักบุ้งทอดกรอบ
    เมนูยอดฮิตที่ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นการนำเสนอความแปลกใหม่ ที่สามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้เพลิน ๆ ด้วยการนำผักบุ้งจีนไปเด็ดเป็นท่อน จากนั้นนำไปคลุกกับแป้งทอดกรอบ และนำไปทอดในน้ำมันที่เดือดจัด รอให้ผักบุ้งมีสีเหลืองทอง แล้วตักขึ้นมาพักเอาไว้ จากนั้นตำเครื่องสำหรับทำส้มตำ ปรุงรสตามใจชอบ สามารถรับประทานแบบนำผักบุ้งลงไปคลุกเคล้า หรือจะตักน้ำยำแยกใส่ถ้วยต่างหากก็ได้
  4. ตำมะม่วง
    เมนูเด็ดที่ถูกใจสาว ๆ เพราะความเปรี้ยวออกมัน ๆ ของมะม่วง เมื่อนำมาตำกับเครื่องยำ ใส่น้ำปลาร้าสักหน่อย ปูเค็มสักนิด ก็สามารถร่วมวงรับประทานกันได้ไม่มีเบื่อ หากได้มะม่วงแก้วเป็นวัตถุดิบหลักจะให้ความเปรี้ยวอมหวาน และมีความกรุบกรอบของเนื้อมะม่วง ช่วยชูรสชาติได้เป็นอย่างดี
  5. ตำข้าวโพด
    เป็นการนำข้าวโพดสีเหลืองทองที่สุกกำลังพอดี มาฝานเป็นชิ้น จากนั้นนำแคร์รอตมาสับหรือขูดเป็นเส้น นำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำที่ปรุงรสเรียบร้อยแล้ว เพิ่มความอร่อยด้วยปลากรอบตัวเล็ก ๆ และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กลายเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ ที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ได้เลยทีเดียว

จุดเด่นของส้มตำนั้น คือการชูรสชาติที่แซ่บ ทั้งรสเผ็ด รสเค็ม รสเปรี้ยว และออกหวานติดปลายลิ้นนิด ๆ ความพิเศษของเมนูนี้คือ เราสามารถเลือกวัตถุดิบต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรามาปรุงได้อย่างง่ายดาย ขอเพียงให้เรารู้ว่าวัตถุดิบที่เราเลือกมานั้น ๆ สามารถตำในครกได้ หรือใช้เพียงการคลุกเคล้าเบา ๆ เราก็สามารถสร้างสรรค์เมนูส้มตำได้อีกหลากหลายตามความชอบใจ